วันอังคารที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2551

เมืองเพชรบูรณ์

จังหวัดเพชรบูรณ์เป็นเมืองโบราณ

1 ความคิดเห็น:

uncle กล่าวว่า...

ผมมีความเชื่อว่า เมืองราด น่าจะอยู่ในเขตอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ มากกว่า ที่หล่มสัก หรือหล่มเก่า เพราะว่า พ่อขุนผาเมืองเป็นพระโอรสของพ่อขุนศรีนาวนำถม แห่งกรุงสุโขทัย ศรีสัชชนาลัย เวลาสร้างบ้านแปลงเมืองแล้ว ย่อมจะนำ ศิลป วัฒนธรรม จารีตประเพณีมาด้วย เช่น เจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ที่สุโขทัย และศรีสัชชนาลัย มีเป็นจำนวนมาก

ส่วนเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ที่ที่เพชรบูรณ์ทำไมถึงสร้างที่วัดมหาธาตุ ทำไมถึงไม่สร้างที่หล่มสัก หรือหล่มเก่า ถ้าเมืองราดตั้งอยู่ในเมืองหล่มสักหรือหลุ่มเก่า ทั้งนี้ก็เพราะว่า พระศรีศรัทธาจุฬาราชมนุ ซึ่งเป็นหลานพ่อขุนผาเมืองเจ้าเมืองราดองค์ต่อมา เป็นผู้ดำริให้สร้าง แต่ก็สร้างไม่เสร็จเพราะได้สละราชสมบ้ติออกผนวช พ่อมาถึงสมัยพระเจ้าเพชรบูรณ์ ก็ได้สานต่อ แล้วก็เสร็จในสมัยนั้น เพื่อเป็นการให้เกียรติพระเจ้าเพชรบูรณ์ จึงเปลี่ยนชื่อเมืองจากเมืองราดมาเป็นเมืองเพชรบูรณ์

ส่วนดินแดนหล่มสักหรือหล่มเก่านั้น น่าจะเป็นชุมชนของเจ้าแม่เข็มทองที่อพยพมาจากเวียงจันท์ ต่อมาเจ้าแม่เข็มทองก็เป็นพระชายาพ่อขุนผาเมืองก่อนนางสิงขรเทวี จึงทำให้เมืองหล่มสักหรือหล่มเก่าถูกผนวกเป็นส่วนหนึ่งของเมืองราด

และการที่ชาวบ้านได้พบพระพุทธมหาธรรมราชา ที่แม่น้ำป่าสักในเขตอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ก็น่าจะเป็นอีกคำตอบที่มาสนับสนุนว่าเมืองราดน่าจะอยู่ในอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ แล้วทำไมชาวบ้านไม่พบพระพุทธมหาธรรมราชาที่แม่น้ำป่าสักในเขตอำเภอหล่มสัก ซึ่งพระพุทธมหาธรรมหาธรรมราชานั้นทำด้วยโลหะ ซึ่งมีน้ำหนักคงไม่ลอยไหลมาอยู่ที่ในเขตอำเภอเมืองเพชรบุรณ์แน่

นอกจากนี้ยังได้มีตำนานว่า มีการพบศพนางสิงขรเทวี ที่บริเวณวัดโพธิเย็น เมื่อแม่นางสิงขรเทวีกระโดดลงแม่น้ำป่าสักเพื่อปลงพระชนม์ตัวเองเพราะน้อยใจพ่อขุนผาเมือง เวลาคนจมน้ำตายศพก็จะจบน้ำประมาณ 3-4 วัด ถึงจะลอยขึ้นมา แต่ถ้าย้อนไปเมื่อ 800 กว่า ปี ดินแดนเพชรบูรณ์ก็เต็มไปด้วยป่าดงดิบ ต้องมีสัตว์ป่านานาชนิด โดยเฉพาะสัตว์เลื้อยคลานบางจำพวกต้องมากินซากศพแน่ คงไม่มีชาวบ้านมาพบศพในเขตต้วเมืองเพชรบูรณ์หรอก เพราะระยะทางจากอำเภอหล่มสัก หล่มเก่ามายังเพชรบูรณ์ก็ประมาณ 40 กว่า กิโล และยากที่จะชาวบ้านจะพบศพได้


ปล.หากท่านใดมีข้อมูลเกี่ยวกับพ่อขุนผาเมือง และเมืองราด กรุณาแบ่งปันข้อมูลให้กับกระผมด้วยจักเป็นพระคุณยิ่ง เพราะได้ค้นคว้าหาข้อมูลมาตั้งแต่ปี 42 ซึ่งจะนำมารวบรวมข้อมูลเพื่อถวายเป็นพระเกียรติของพระองค์ท่าน

ลูก-หลานพ่อขุน

e-mail dmcnews_center@hotmail.com